คุณสมบัติ : น้ำสำหรับเติมแบตเตอรี่ชนิดตะกั่ว-กรด
วิธิใช้ : สำหรับใช้เติมแบตเตอรี่หม้อน้ำรถยนต์ และงานที่ต้องการใช้น้ำบริสุทธิ์
คำเตือน : ควรตรวจเช็คระดับน้ำกลั่นเสมอ ไม่เหมาะกับการใช้ดื่ม
วิธิใช้ : สำหรับใช้เติมแบตเตอรี่หม้อน้ำรถยนต์ และงานที่ต้องการใช้น้ำบริสุทธิ์
คำเตือน : ควรตรวจเช็คระดับน้ำกลั่นเสมอ ไม่เหมาะกับการใช้ดื่ม

น้ำกลั่นแบตเตอรี่รถยนต์ตราซี.เอส. ภายใต้การผลิตของบริษัท ซี.เอส.ยูเนี่ยน
กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำกลั่น และน้ำยาเคมีสำหรับเติมแบต เตอรี่มานานมากกว่า 10 ปี ซึ่งเป็น บริษัทในประเทศไทย ที่ได้รับเครื่องหมาย รับรองการผลิตตามมาตราฐานอุตสาหกรรมหรือ เครื่องหมาย ม.อ.ก.
(มอก.19-2536) น้ำกลั่นแบตเตอรี่รถยนต์ตรา ซี.เอส. เป็นน้ำกลั่นที่มีคุณภาพสูงซึ่ง ผ่านกระบวนการผลิตอันทันสมัย เหมาะสำหรับใช้เติมในแบตเตอรี่ รถยนต์ และยังสามารถใช้เติมหม้อน้ำ รถยนต์และงานที่ต้องใช้น้ำ บริสุทธิ์ ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ ในรถของท่าน ให้มี อายุการใช้งานที่ยาวขึ้น
คำแนะนำ : การตรวจเช็คแบตเตอรี่เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องตรวจเช็คเป็นประจำทุกสัปดาห์
โดยสามารถแบ่งลักษณะประเภทของแบตเตอรี่ ซึ่งมีอยู่ 2 ชนิด คือ แบตเตอรี่ชนิดเปียก (Lead Acid) ควรตรวจเช็คและเติมน้ำกลั่นสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และแบตเตอรี่ชนิดแห้ง (Maintenance Free) ควรตรวจเช็คเป็นประจำทุกเดือน โดยสามารถสังเกตุระดับของน้ำกลั่น โดยดูจากช่องตาแมว (Indicator) และควรเติมน้ำกลั่นให้ได้ระดับที่ กำหนดหรือเหนือแผ่นธาตุประมาณ 1-1.5 ซ.ม. และไม่ควรเติมน้ำกลั่นน้อยกว่าระดับ เพราะจะทำให้ปริมาณน้ำกรดมีความเข้มข้นมากไป ทำให้ แบตเตอรี่ไม่สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าออกมาได้อย่างสม่ำเสมอ และไม่ควรเติมน้ำกลั่นมากกว่าระดับที่กำหนด เพราะจะทำให้น้ำกรดเจือจางเกินไป ทำให้แบตเตอรี่ไม่สามารถประจุไฟฟ้าได้อย่างเหมาะสม และยังทำให้ล้นออกมาจากแบตเตอรี่ทำให้กัดกร่อนสีตัวถังรถได้ และยังทำให้เกิดคราบขี้เกลือ เกาะบริเวณขั้วแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้การส่งกระแสไฟฟ้าระหว่างแบตเตอรี่และอุปกรณ์ไฟฟ้าในรถยนต์ ทำงานได้ไม่เต็มที่ และทำให้ ขั้วแบตเตอรี่แตกหักได้ง่ายด้วย การตรวจเช็คแบตเตอรี่ให้เปิดฝาจุกด้านบน ของแบตเตอรี่ทั้ง 6 ฝา เพื่อเช็คสภาพน้ำกลั่นว่าอยู่ในระดับใด ถ้าน้ำกลั่นอยู่ในระดับต่ำกว่าที่กำหนด หรือลดลงจนไม่ท่วมแผ่นธาตุ ควรเติมน้ำกลั่นลงไปให้ท่วมแผ่นธาตุประมาณ1-1.5 ซ.ม. อย่าเติมน้ำกลั่น ให้ล้นออกมาจากแบตเตอรี่ หากน้ำกลั่นล้นออกมานอกแบตเตอรี่ให้รีบนำผ้ามาเช็ดให้แห้งทันที เมื่อเติมน้ำกลั่น เสร็จเรียบร้อยให้ปิดฝาจุกทั้ง 6 ฝาให้เรียบร้อย นอกจากนี้ โดยทั่วไปแบตเตอรี่จะเริ่มเสื่อมสภาพ หลังจากเริ่มใช้งานไปประมาณ 1-2 ปี ดังนั้นการตรวจเช็คสภาพของแบตเตอรี่ ให้มีความพร้อมอยู่เสมอ จึงเป็นวิธีการยืดอายุของแบตเตอรี่ที่ดีที่สุด ซึ่งสามารถทำได้ด้วยตัวเองง่ายๆเป็นประจำทุกอาทิตย์ ตรวจสอบสภาพของ แบตเตอรี่อยู่เสมอ อย่าให้มีรอยแตกร้าว เพราะจะทำให้แบตเตอรี่ไม่เก็บประจุไฟฟ้า ดูแลขั้วแบตเตอรี่ให้สะอาดเสมอ ถ้ามีคราบขี้เกลือเกิดขึ้นควร รีบทำความสะอาด
โดยสามารถแบ่งลักษณะประเภทของแบตเตอรี่ ซึ่งมีอยู่ 2 ชนิด คือ แบตเตอรี่ชนิดเปียก (Lead Acid) ควรตรวจเช็คและเติมน้ำกลั่นสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และแบตเตอรี่ชนิดแห้ง (Maintenance Free) ควรตรวจเช็คเป็นประจำทุกเดือน โดยสามารถสังเกตุระดับของน้ำกลั่น โดยดูจากช่องตาแมว (Indicator) และควรเติมน้ำกลั่นให้ได้ระดับที่ กำหนดหรือเหนือแผ่นธาตุประมาณ 1-1.5 ซ.ม. และไม่ควรเติมน้ำกลั่นน้อยกว่าระดับ เพราะจะทำให้ปริมาณน้ำกรดมีความเข้มข้นมากไป ทำให้ แบตเตอรี่ไม่สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าออกมาได้อย่างสม่ำเสมอ และไม่ควรเติมน้ำกลั่นมากกว่าระดับที่กำหนด เพราะจะทำให้น้ำกรดเจือจางเกินไป ทำให้แบตเตอรี่ไม่สามารถประจุไฟฟ้าได้อย่างเหมาะสม และยังทำให้ล้นออกมาจากแบตเตอรี่ทำให้กัดกร่อนสีตัวถังรถได้ และยังทำให้เกิดคราบขี้เกลือ เกาะบริเวณขั้วแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้การส่งกระแสไฟฟ้าระหว่างแบตเตอรี่และอุปกรณ์ไฟฟ้าในรถยนต์ ทำงานได้ไม่เต็มที่ และทำให้ ขั้วแบตเตอรี่แตกหักได้ง่ายด้วย การตรวจเช็คแบตเตอรี่ให้เปิดฝาจุกด้านบน ของแบตเตอรี่ทั้ง 6 ฝา เพื่อเช็คสภาพน้ำกลั่นว่าอยู่ในระดับใด ถ้าน้ำกลั่นอยู่ในระดับต่ำกว่าที่กำหนด หรือลดลงจนไม่ท่วมแผ่นธาตุ ควรเติมน้ำกลั่นลงไปให้ท่วมแผ่นธาตุประมาณ1-1.5 ซ.ม. อย่าเติมน้ำกลั่น ให้ล้นออกมาจากแบตเตอรี่ หากน้ำกลั่นล้นออกมานอกแบตเตอรี่ให้รีบนำผ้ามาเช็ดให้แห้งทันที เมื่อเติมน้ำกลั่น เสร็จเรียบร้อยให้ปิดฝาจุกทั้ง 6 ฝาให้เรียบร้อย นอกจากนี้ โดยทั่วไปแบตเตอรี่จะเริ่มเสื่อมสภาพ หลังจากเริ่มใช้งานไปประมาณ 1-2 ปี ดังนั้นการตรวจเช็คสภาพของแบตเตอรี่ ให้มีความพร้อมอยู่เสมอ จึงเป็นวิธีการยืดอายุของแบตเตอรี่ที่ดีที่สุด ซึ่งสามารถทำได้ด้วยตัวเองง่ายๆเป็นประจำทุกอาทิตย์ ตรวจสอบสภาพของ แบตเตอรี่อยู่เสมอ อย่าให้มีรอยแตกร้าว เพราะจะทำให้แบตเตอรี่ไม่เก็บประจุไฟฟ้า ดูแลขั้วแบตเตอรี่ให้สะอาดเสมอ ถ้ามีคราบขี้เกลือเกิดขึ้นควร รีบทำความสะอาด